20 ท่ายกดัมเบลสร้างกล้ามเนื้อแบบ Full Body!

การออกกำลังกายด้วยดัมเบลนั้นเป็นวิธีสร้างกล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพและสะดวก เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพราะสามารถเล่นได้ที่บ้าน ใช้พื้นที่น้อย และปรับน้ำหนักได้ตามความเหมาะสม

บทความนี้รวบรวม 20 ท่ายกดัมเบลพื้นฐานที่ครอบคลุมทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น กล้ามอก กล้ามหลัง กล้ามไหล่ กล้ามแขน และกล้ามขา โดยแต่ละท่าจะอธิบายวิธีการเล่นอย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับมือใหม่

Table of Contents

สร้างกล้ามอกให้สวยด้วยท่าเล่นอก ดัมเบล

1. ท่าเล่นอกบน ท่าดัมเบลเพรสบนม้าเอียง (Incline Dumbbell Press) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

การออกกำลังกายท่านี้จะช่วยพัฒนากล้ามอกส่วนบน พร้อมกระตุ้นกล้ามเนื้อไหล่หน้าและกล้ามแขนส่วนหลัง เหมาะสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อแบบมีมิติ

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ปรับม้านั่งเอียง 30-45 องศา นอนหงายให้หลังแนบม้า
  2. จับดัมเบลสองข้างยกขึ้นเหนืออก ฝ่ามือหันเข้าหากัน
  3. หายใจเข้า ลดดัมเบลลงช้าๆ จนรู้สึกถึงการยืดกล้ามอก
  4. หายใจออก เกร็งกล้ามเนื้อดันดัมเบลกลับขึ้น

เคล็ดลับการเล่นอกบน

สำหรับการยกดัมเบลท่านี้ ให้รักษาข้อศอกทำมุม 45 องศากับลำตัว เกร็งท้องและหลังตลอดการเล่น ควบคุมจังหวะให้นิ่ง ผู้ชายควรเริ่มที่ 10-15 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 4-8 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60-90 วินาที

2. ท่าเล่นอกกลาง ท่าเล่นดัมเบลเพรส (Flat Dumbbell Press) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เป็นท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่ช่วยสร้างกล้ามอกส่วนกลางให้หนาและกว้าง พร้อมกระตุ้นกล้ามเนื้อไหล่และกล้ามแขนไปด้วย เป็นท่าที่นิยมในการเล่นฟิตเนส

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. นอนราบบนม้านั่ง เท้าวางราบกับพื้น หลังแนบม้า
  2. ยกดัมเบลขึ้นเหนืออก แขนเหยียดตรง ฝ่ามือหันไปด้านหน้า
  3. หายใจเข้า ลดดัมเบลลงช้าๆ จนแตะข้างอก
  4. หายใจออก เกร็งกล้ามอกดันดัมเบลขึ้นสู่ท่าเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

การยกดัมเบลท่านี้ต้องระวังไม่ยกน้ำหนักหนักเกินไป เน้นการบีบกล้ามอกตอนดันขึ้น ผู้ชายควรเริ่มที่ 12-18 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 5-10 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90-120 วินาที

3. ท่าเล่นอกล่าง ท่าเล่นดัมเบลเพรสแบบเอียงลง (Decline Dumbbell Press)

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

การออกกำลังกายท่านี้เน้นกล้ามอกส่วนล่าง ช่วยเสริมสร้างความหนาและความแน่นของกล้ามเนื้อส่วนล่าง พร้อมกระตุ้นกล้ามแขนและกล้ามไหล่ไปด้วย

วิธีทำท่าเล่นอกล่างที่ถูกต้อง

  1. ปรับม้านั่งให้เอียงลง 15-30 องศา นอนหงายบนม้า
  2. จับดัมเบลยกขึ้นเหนืออก แขนเหยียดตรง
  3. หายใจเข้า ลดดัมเบลลงช้าๆ จนถึงระดับอก
  4. หายใจออก เกร็งกล้ามอกดันดัมเบลกลับขึ้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

ควรมีคนช่วยส่งดัมเบลตอนเริ่มต้น ระวังอย่าให้ดัมเบลกระแทกหน้าอก ผู้ชายควรเริ่มที่ 15-20 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 6-12 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

4. ท่าเล่นอกข้าง ท่าดัมเบลฟลาย (Dumbbell Flyes) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่าออกกำลังกายนี้ช่วยขยายกล้ามอกส่วนนอก สร้างความกว้างและเพิ่มการแยกกล้ามได้ชัดเจน เป็นท่าเล่นดัมเบลยอดนิยมสำหรับนักเวทเทรนนิ่ง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. นอนราบบนม้า จับดัมเบลยกขึ้นตั้งฉากกับอก
  2. แขนเหยียดตรง งอข้อศอกเล็กน้อย
  3. หายใจเข้า กางดัมเบลออกด้านข้างช้าๆ
  4. หายใจออก บีบกล้ามอกยกดัมเบลกลับมาชนกัน

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาข้อศอกให้งอเล็กน้อยตลอดการเล่น ไม่ลดดัมเบลต่ำเกินไป ผู้ชายควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 3-6 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

ท่าเล่นหลังด้วยดัมเบล

5. ท่าเล่นปีกหลัง ท่าเล่นดัมเบลโรว์ข้างเดียว (Single-Arm Row) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่าออกกำลังกายนี้มุ่งเน้นกล้ามหลังส่วนบน สร้างความกว้างของปีกหลัง พร้อมกระตุ้นกล้ามเนื้อสะบักและกล้ามแขน

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนข้างม้า เท้าข้างหนึ่งคุกเข่าบนม้า มืออีกข้างยันม้า
  2. จับดัมเบลด้วยมือที่ว่าง ปล่อยแขนห้อยตรง
  3. หายใจออก ยกดัมเบลขึ้นชิดลำตัว เกร็งกล้ามหลัง
  4. หายใจเข้า ลดดัมเบลลงช้าๆ สู่ท่าเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง

หลังตรง ไม่บิดเอว ดึงดัมเบลให้ชิดลำตัว ผู้ชายควรเริ่มที่ 15-20 กิโลกรัม ผู้หญิงควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัม

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60-90 วินาที

6. ท่าเล่นกล้ามหลังส่วนกลาง ท่าเล่นดัมเบลโรว์สองมือ (Bent-Over Row) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่าออกกำลังกายนี้ช่วยสร้างความหนาของกล้ามหลังส่วนกลาง เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะบัก และกล้ามแขนด้านหลัง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนแยกขา ย่อเข่าเล็กน้อย ก้มตัวประมาณ 45 องศา
  2. จับดัมเบลสองข้าง ปล่อยแขนห้อยตรง
  3. หายใจออก ยกดัมเบลขึ้นชิดหน้าท้อง บีบกล้ามหลัง
  4. หายใจเข้า ลดดัมเบลลงช้าๆ ควบคุมจังหวะ

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาหลังตรง หลีกเลี่ยงการเหวี่ยง ผู้ชายควรเริ่มที่ 12-15 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 6-10 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

7. ท่าเล่นสะบัก ท่าดัมเบลรีเวิร์สฟลาย (Reverse Flyes) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามเนื้อสะบัก ไหล่หลัง และกล้ามหลังส่วนบน ช่วยสร้างความแข็งแรงและแก้ปัญหาหลังค่อม

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. นั่งบนม้า ก้มตัวไปด้านหน้า จับดัมเบลสองข้าง
  2. ปล่อยแขนห้อยตรง ข้อศอกงอเล็กน้อย
  3. หายใจออก ยกดัมเบลกางออกด้านข้างเหมือนปีกนก
  4. หายใจเข้า ลดดัมเบลกลับช้าๆ รู้สึกถึงการยืดสะบัก

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

ใช้น้ำหนักเบาๆ เน้นฟอร์มที่ถูกต้อง ผู้ชายควรเริ่มที่ 4-8 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 2-4 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

8. ท่าเล่นหลังล่าง ท่าดัมเบลเดดลิฟท์ (Dumbbell Deadlift)

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เป็นท่าหลักสำหรับสร้างกล้ามหลังส่วนล่าง ต้นขาด้านหลัง สะโพก และกล้ามเนื้อแกนกลาง เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงโดยรวม

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนแยกขาระดับสะโพก วางดัมเบลด้านข้างขาทั้งสองข้าง
  2. ย่อตัวลง หลังตรง สะโพกถอยหลัง จับดัมเบล
  3. เกร็งแกนกลาง ยืดตัวขึ้น ยกดัมเบลตามแนวขา
  4. ค่อยๆ ลดตัวลง ปล่อยดัมเบลกลับจุดเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

จุดสำคัญของท่านี้คือการรักษาหลังให้ตรง ใช้พลังจากสะโพกและขาในการยก ไม่ใช้หลัง เกร็งหน้าท้องตลอดเวลา สำหรับผู้ชายควรเริ่มที่ 15-20 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัมต่อข้าง ควรอบอุ่นร่างกายให้ดีก่อนเล่น

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90-120 วินาที

ท่าเล่นไหล่ด้วยดัมเบล เล่นไหล่ด้วยดัมเบล

9. ท่าเล่นไหล่หน้า ท่าดัมเบลมิลิทารีเพรส (Dumbbell Military Press) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นพัฒนากล้ามไหล่ส่วนหน้าและกลาง พร้อมกระตุ้นกล้ามแขนด้านหน้าและกล้ามเนื้อแกนกลาง เป็นท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อไหล่

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลยกขึ้นระดับไหล่ ฝ่ามือหันไปด้านหน้า
  2. เกร็งแกนกลาง ดันดัมเบลขึ้นเหนือศีรษะ
  3. เมื่อแขนเหยียดตรง หยุดค้างไว้สักครู่
  4. ค่อยๆ ลดดัมเบลลงสู่ระดับไหล่

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาหลังให้ตรง ไม่แอ่นหลังขณะดันขึ้น หลีกเลี่ยงการเหวี่ยงดัมเบล สำหรับผู้ชายควรเริ่มที่ 10-15 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 5-8 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

10. ท่าเล่นไหล่ข้าง ท่าเล่นดัมเบลแลทเทอรัลเรส (Dumbbell Lateral Raise) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามไหล่ส่วนข้าง ช่วยสร้างความกว้างของไหล่ สร้างกล้ามเนื้อรูปตัววี และทำให้ช่วงบนดูใหญ่ขึ้น เป็นท่าออกกำลังกายที่นิยมในการเล่นฟิตเนส

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลสองข้าง ปล่อยแขนแนบลำตัว
  2. ค่อยๆ ยกดัมเบลกางออกด้านข้าง คงระดับข้อศอก
  3. ยกจนแขนขนานกับพื้น หยุดค้างสักครู่
  4. ลดดัมเบลลงช้าๆ ควบคุมจังหวะ

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

ควบคุมจังหวะให้นิ่ม ไม่เหวี่ยง ข้อศอกงอเล็กน้อย สำหรับผู้ชายควรเริ่มที่ 5-8 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 2-4 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

11. ท่าเล่นไหล่หน้า ท่าดัมเบลฟรอนท์เรส (Dumbbell Front Raise) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้พัฒนากล้ามไหล่ส่วนหน้า ช่วยเสริมกล้ามเนื้ออกส่วนบน สร้างความแข็งแรงให้ไหล่ส่วนหน้าและกล้ามแขนด้านหน้า

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลสองข้าง วางไว้ด้านหน้าต้นขา
  2. ยกดัมเบลขึ้นตรงๆ ด้านหน้า แขนเหยียดตรง
  3. ยกจนระดับไหล่ หยุดค้างสักครู่
  4. ลดดัมเบลลงช้าๆ กลับสู่ท่าเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

หลีกเลี่ยงการแอ่นหลัง ควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหว ผู้ชายควรเริ่มที่ 4-8 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 2-4 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

12. ท่าเล่นไหล่หลัง ท่าเล่นดัมเบลเบนท์โอเวอร์เรส (Bent-Over Rear Delt Raise) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามไหล่ส่วนหลัง สะบัก และกล้ามหลังส่วนบน เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยแก้ปัญหาหลังค่อมและสร้างความสมดุลให้กล้ามเนื้อรอบไหล่

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ก้มตัว 45 องศา จับดัมเบลสองข้าง ปล่อยแขนห้อย
  2. กางแขนขึ้นด้านข้าง ข้อศอกงอเล็กน้อย
  3. ยกดัมเบลขึ้นจนแขนขนานพื้น บีบสะบัก
  4. ลดดัมเบลลงช้าๆ สู่ท่าเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาหลังให้นิ่ง หลีกเลี่ยงการเหวี่ยง เน้นการบีบสะบัก ผู้ชายควรเริ่มที่ 3-6 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 1-3 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

 

สร้างกล้ามแขนด้วยดัมเบล

13. ท่าดัมเบลเคิร์ล (Standing Dumbbell Curl) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นพัฒนากล้ามแขนด้านหน้า เสริมกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ให้โตและเป็นมัด เป็นท่าเล่นดัมเบลพื้นฐานที่นิยมในการเวทเทรนนิ่ง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลสองข้าง ปล่อยแขนข้างลำตัว
  2. ม้วนข้อมือขึ้น งอข้อศอกยกดัมเบลขึ้น
  3. บีบกล้ามแขนค้างไว้สักครู่ตรงจุดบนสุด
  4. ลดดัมเบลลงช้าๆ ควบคุมจังหวะ

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

ยืนนิ่ง ไม่แกว่งตัว เน้นใช้กล้ามแขนอย่างเดียว ผู้ชายควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 4-6 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

 

14. ท่าเล่นข้างแขน ท่าเล่นดัมเบลแฮมเมอร์เคิร์ล (Hammer Curl) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้พัฒนากล้ามแขนส่วนข้าง เน้นกล้ามเนื้อแบรคิเอลิส สร้างความหนาของกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้ข้อมือ

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลแนวตั้ง ฝ่ามือหันเข้าหากัน
  2. ยกดัมเบลขึ้น รักษาตำแหน่งมือให้เหมือนถือค้อน
  3. บีบกล้ามแขนตรงจุดสูงสุด หยุดค้างสักครู่
  4. ลดดัมเบลลงช้าๆ ควบคุมจังหวะ

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาข้อศอกชิดลำตัว ไม่แกว่งหลัง ผู้ชายควรเริ่มที่ 10-14 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 5-8 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

15. ท่าเล่นหลังแขน ท่าดัมเบลไตรเซปเอ็กซ์เทนชัน (Dumbbell Tricep Extension) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามแขนด้านหลังหรือไตรเซปส์ ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของหลังแขน เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อแขนให้สมส่วน

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง ยกดัมเบลเหนือศีรษะ มือทั้งสองจับด้านปลาย
  2. งอข้อศอก ลดดัมเบลลงด้านหลังศีรษะ
  3. เหยียดแขนขึ้น บีบกล้ามเนื้อตรงจุดสูงสุด
  4. ลดลงช้าๆ ควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหว

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาข้อศอกให้ชิดศีรษะ ห้ามกางข้อศอก ผู้ชายควรเริ่มที่ 15-20 กิโลกรัม ผู้หญิงควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัม

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

16. ท่าเล่นแขนด้านใน ท่าดัมเบลคอนเซนเทรชั่นเคิร์ล (Concentration Curl) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามแขนส่วนใน ช่วยสร้างความนูนและความชัดของกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ เป็นท่าเล่นดัมเบลที่ช่วยแยกกล้ามได้ดี

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. นั่งบนม้า วางข้อศอกด้านในต้นขา จับดัมเบล
  2. ห้อยแขนตรง ฝ่ามือหงายขึ้น
  3. งอข้อศอกยกดัมเบลขึ้นช้าๆ บีบกล้าม
  4. ลดลงสู่ท่าเริ่มต้น ควบคุมจังหวะ

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาข้อศอกให้นิ่ง ไม่ใช้แรงเหวี่ยง ผู้ชายควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัม ผู้หญิงควรเริ่มที่ 4-6 กิโลกรัม

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

 

ท่าเล่นกล้ามขาด้วยดัมเบล ท่าเล่นขาด้วยดัมเบล

17. ท่าดัมเบลก็อบเล็ทสควอท (Dumbbell Goblet Squat) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้พัฒนากล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า สะโพก และกล้ามเนื้อแกนกลาง เป็นท่าเล่นพื้นฐานที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ช่วงล่าง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนแยกขา จับดัมเบลแนวตั้งไว้ที่หน้าอก
  2. ย่อตัวลง สะโพกถอยหลัง เข่าตามแนวเท้า
  3. ย่อตัวลงจนต้นขาขนานพื้น เกร็งท้อง
  4. ดันตัวขึ้นกลับสู่ท่ายืน บีบก้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาอกตั้งตรง ส้นเท้าติดพื้น ผู้ชายควรเริ่มที่ 20-25 กิโลกรัม ผู้หญิงควรเริ่มที่ 10-15 กิโลกรัม

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

18. ท่าเล่นขาหลัง ท่าดัมเบลโรมาเนียนเดดลิฟท์ (Romanian Deadlift) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นพัฒนากล้ามขาด้านหลัง สะโพก และกล้ามหลังส่วนล่าง เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและกระชับส่วนล่าง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลไว้ด้านหน้าต้นขา
  2. ย่อเข่าเล็กน้อย ค่อยๆ ก้มตัวลง สะโพกถอยหลัง
  3. ลดดัมเบลลงตามแนวขา รู้สึกตึงต้นขาหลัง
  4. ดันสะโพกไปข้างหน้า ยืดตัวขึ้นกลับท่าเริ่มต้น

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาหลังตรง เกร็งท้อง ผู้ชายควรเริ่มที่ 12-15 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 6-10 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

19. ท่าเล่นขาส่วนใน ท่าเล่นดัมเบลลันจ์ (Dumbbell Lunges) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย 

ท่านี้เน้นกล้ามขาส่วนใน ต้นขาด้านหน้า และสะโพก เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยสร้างความสมดุลและความแข็งแรงให้ขาทั้งสองข้าง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนตรง จับดัมเบลสองข้าง แขนปล่อยข้างลำตัว
  2. ก้าวขาหน้ายาว ย่อตัวลงให้เข่าหลังแตะพื้น
  3. เกร็งขาหน้า ดันตัวขึ้นกลับสู่ท่ายืน
  4. สลับขาทำอีกข้าง ทำสลับกันไป

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

รักษาหลังตรง ก้าวให้ยาวพอดี ผู้ชายควรเริ่มที่ 10-15 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 5-8 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง (ต่อขา)
  • พักระหว่างเซต 90 วินาที

20. ท่าเล่นน่อง ท่าดัมเบลคาฟ์เรส (Standing Calf Raise) 

กล้ามเนื้อเป้าหมาย ท่านี้เน้นกล้ามเนื้อน่อง ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของน่อง เป็นท่าออกกำลังกายที่สำคัญสำหรับการพัฒนาขาส่วนล่าง

วิธีเล่นดัมเบลที่ถูกต้อง

  1. ยืนบนขอบบันไดหรือบล็อก จับดัมเบลสองข้าง
  2. ส้นเท้าห้อยลง ปลายเท้าอยู่บนขอบ
  3. ยกส้นเท้าขึ้นสูงสุด เขย่งปลายเท้า
  4. ลดส้นเท้าลงต่ำกว่าระดับปลายเท้า ยืดน่อง

เคล็ดลับการเวทเทรนนิ่ง 

เน้นช่วงยืดตอนลดส้นเท้า ทำช้าๆ ผู้ชายควรเริ่มที่ 15-20 กิโลกรัมต่อข้าง ผู้หญิงควรเริ่มที่ 8-12 กิโลกรัมต่อข้าง

จำนวนครั้งและเซต

  • เวทเทรนนิ่ง 3-4 เซต เซตละ 15-20 ครั้ง
  • พักระหว่างเซต 60 วินาที

คำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับการเล่นดัมเบล

คำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับการเล่นดัมเบล

Q: ดัมเบลเริ่มต้นควรใช้น้ำหนักเท่าไร?
A: ผู้ชายควรเริ่มที่ 5-10 กิโลกรัม ผู้หญิง 2-5 กิโลกรัม เลือกน้ำหนักที่ยกได้ 12-15 ครั้งต่อเซตอย่างถูกฟอร์ม

Q: เล่นดัมเบลควรออกกำลังกายกี่วันต่อสัปดาห์?
A: ควรเล่น 3-4 วันต่อสัปดาห์ สลับวันพัก และแบ่งกลุ่มกล้ามเนื้อในแต่ละวัน

Q: เล่นดัมเบลแล้วได้กล้ามส่วนไหนบ้าง?
A: พัฒนากล้ามเนื้อได้ทั้งตัว ทั้งอก หลัง ไหล่ แขน และขา ขึ้นอยู่กับท่าที่เลือกเล่น

Q: เริ่มต้นเล่นดัมเบลควรทำกี่เซต?
A: 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 60-90 วินาที

Q: ยกดัมเบลทุกวันได้ไหม?
A: ไม่ควร ต้องให้กล้ามเนื้อพัก 24-48 ชั่วโมง ควรสลับส่วนที่เล่น เพื่อให้กล้ามเนื้อฟื้นตัว

Q: มือใหม่ควรเริ่มเล่นดัมเบลท่าไหนก่อน?
A: ควรเริ่มจากท่าพื้นฐาน เช่น ดัมเบลเคิร์ล ดัมเบลเพรส และท่าสควอทด้วยดัมเบล

Q: เล่นดัมเบลผิดท่าอันตรายไหม?
A: อันตรายได้ถ้าฟอร์มไม่ถูก ควรศึกษาท่าทางให้ดีและมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำช่วงแรก

Q: เล่นดัมเบลแล้วจะสร้างกล้ามเนื้อเห็นผลเมื่อไหร่?
A: เห็นผลประมาณ 6-8 สัปดาห์ หากเล่นอย่างสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร

Q: เล่นดัมเบลต้องกินอาหารเสริมไหม?
A: ไม่จำเป็น เน้นทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โปรตีนเพียงพอ และน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน

Q: เล่นดัมเบลควรอบอุ่นร่างกายอย่างไร?
A: ยืดเหยียด 5-10 นาที และวอร์มอัพด้วยท่าเดียวกันแต่ใช้น้ำหนักเบาก่อนเริ่มเล่นจริง

สรุป

การออกกำลังกายด้วยดัมเบลเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างกล้ามเนื้อ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นอย่างถูกวิธี โดยผู้ชายควรเริ่มที่ 5-10 กก. ผู้หญิง 2-5 กก. ฝึกท่าเล่นดัมเบลพื้นฐานให้ถูกต้อง ทำเวทเทรนนิ่ง 3-4 วันต่อสัปดาห์ แบ่งกล้ามเนื้อเป็นส่วนๆ เช่น กล้ามอก กล้ามหลัง กล้ามไหล่ กล้ามแขน กล้ามขา และพักฟื้นกล้ามอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง

เริ่มต้นยกดัมเบลวันนี้ ผลลัพธ์ที่ดีรอคุณอยู่ภายใน 6-8 สัปดาห์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างกล้ามเนื้อ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *